วันนี้ CAT มีข้อมูลเรื่องความแตกต่างระหว่าง โควิด-19 (ไวรัสโคโรนา) และ ไข้หวัดธรรมดา มาฝาก ลองไปดูพร้อมกัน แล้วเช็คอาการของตัวเองกันดีกว่า จะได้ไม่ต้องระแวงจนเกิดความเครียดว่า เอ๊ะ!เราติด โควิด-19หรือยังนะ? เราป่วยเป็นโควิด-19 หรือ ไข้หวัดธรรมดากันแน่?

ข้อมูลจากกรมควบคุมโรคได้อธิบายความแตกต่างระหว่างไข้หวัดธรรมดา และ โควิด-19 (ไวรัสโคโรนา) ให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า “ไข้หวัดธรรมดา” เกิดจากพวกเชื้อไวรัสชนิดไม่รุนแรง เช่น ไวรัสไรโน ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรง เช่น CoV 229E, OC43, NL63, HKU1 รวมทั้งเชื้อแบคทีเรีย ส่วน “โควิด-19 (ไวรัสโคโรนา)” เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ SAR-CoV-2 มีระยะฟักตัวประมาณ 14 วัน แต่มีช่วงเวลาระหว่าง 0-24 วัน ในการแสดงอาการป่วย โดยไวรัสโคโรนาจะมีระดับความรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดามาก

และทางองค์การอนามัยโลก ระบุว่าอาการป่วยจาก โควิด-19 สังเกตได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้

• มีไข้

โควิด-19 (ไวรัสโคโรนา): ไข้สูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีไข้สูงอย่างต่อเนื่อง 
ไข้หวัดธรรมดา:มีไข้ต่ำ ๆ ประมาณ 37.2 องศาเซลเซียส หรือมีไข้สูงแต่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น โดจะมีไข้อยู่ประมาณ 3-4 วัน เมื่อทานยาและพักผ่อนไข้จะค่อยๆ ลดลง

• ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก

โควิด-19 (ไวรัสโคโรนา): มีอาการไอ  มีเสมหะ ในบางรายเจ็บคอนานเกิน 4 วัน เสมหะอาจมีเลือดปนด้วย
ไข้หวัดธรรมดา:อาจมีอาการไอ จามเล็กน้อยและมีเสมหะได้

•  คลื่นไส้ ท้องเสีย

โควิด-19 (ไวรัสโคโรนา): ในบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หายใจลำบากหรือท้องเสียปนไปด้วย แต่พบอาการนี้ค่อนข้างน้อย
ไข้หวัดธรรมดา:ไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนหรือท้องเสียใด ๆ

• ปวดเมื่อย

โควิด-19 (ไวรัสโคโรนา): มีปวดเมื่อยเนื้อตัว เหนื่อยง่าย รู้สึกเพลีย เบื่ออาหาร ทานอะไรไม่ค่อยลง
ไข้หวัดธรรมดา: อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัวเล็กน้อย

• ปอดอักเสบ

โควิด-19 (ไวรัสโคโรนา): กรณีรุนแรงจะเกิดปอดอักเสบหรือปอดบวม หากรักษาไม่ทัน ก็อาจอันตรายถึงชีวิต

ไข้หวัดธรรมดา: มักไม่เจออาการนี้ในผู้ป่วยโรคไข้หวัดทั่วไป นอกจากมีอาการแทรกซ้อนอย่างปอดบวม

อย่างไรก็ตาม จากอาการที่กล่าวมาด้านบน ถือว่าเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ช่วยให้เราตระหนักได้แต่อย่าตระหนก ขอเพียงหมั่นดูแลตัวเองให้ดี ทานของร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย ๆ และใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดภาวะเสี่ยงในการติดโควิด-19 (ไวรัสโคโรนา) ได้ 

หรือหากใครเช็กแล้วมีอาการผิดปกติที่เข้าค่ายภาวะเสี่ยง แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพราะยิ่งเราไปพบแพทย์เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งรักษาได้ไวและลดโอกาสการแพร่เชื้อไปสู่คนรอบ ๆ ตัว ได้อีกด้วย

ด้วยความปรารถนาดีจาก “CAT เพาะพันธุ์ดี”ที่อยากเห็นทุกคน “ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี”

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล